
คนส่วนใหญ่ต่างก็เคยปวดบั้นเอวกันมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่อย่างใด เพราะส่วนมากจะเป็นอยู่ไม่นานนัก อาการปวดหลังในทุกยุคทุกสมัยมาจนปัจจุบัน พบว่าผู้ป่วยปวดหลังจำนวนมาก เกิดจากท่าทางที่เราทำให้แนวกระดูกหลังไม่อยู่ในแนวตรง เช่นคุณนั่งเอียงไปด้านใดกระดูกก็จะโดนกดทับอยู่ด้านเดียว เส้นเอ็นที่ยืดกระดูกไว้อีกด้าน ก็ตึงกล้ามเนื้อก็เกร็ง และเมื่อเเป็นอย่างนี้บ่อยเข้าก็เกิดการอักเสบและแสดงอาการปวดขึ้นมาที่หลัง ไปตรวจก็ไม่เจอจนกว่าอาการจะเข้าขั้นรุนแรง วิธีการที่จะลดการปวดหลังที่ง่ายที่สุดคือทำตัวให้ตรง ทำได้หรือเปล่า คนเราทำได้ไม่กี่นาทีก็ลืมไปนั่งท่าเดิม ถ้าคุณทำตัวให้ตรงได้ร่างกายก็กลับภาวะสมดุล ระบบเลือดก็ไหลวนได้ อาการปวดก็ลดลงได้เองโดยไม่ต้องกินยาให้มีผลกับไตและตับ
ปวดหลังต้องระวังอาจลุกลาม เป็นเนื้องอกหรือมะเร็ง
บางท่านก็ปวดแป๊ปเดียวก็หาย บางท่านปวดเรื้อรัง ปวดแล้วปวดอีก ขยับไม่ได้เลย อาการปวดต้องระวัง การทำอะไรผิดท่าขึ้นมา อาจลุกลามไปเป็นมะเร็งได้ อาการปวดที่ค่อนข้างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ คือปวดแล้วลงไปตามแขนตามขา ตอนนอนก็ปวด ซึ่งอาจเป็นเนื้องอกหรือมีเชื้อช่วงอายุที่คนเรามักจะมีอาการช่วง อายุ30-40มักเป็นโรคหมอนรองกระดูกช่วงอายุ 70-80 เป็นกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเนื้องอก หรือติดเชื้อ หมอแนะนำอย่านั่งนาน ให้เปลี่ยนอิริยาบถ เป็นยืนหรือเดิน ที่สำคัญ การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำอย่างสมำ่เสมอ
สาเหตุของการปวดบั้นเอว
-ยกของไม่ถูกวิธี มารดาที่มักจะอุ้มลูกอยู่เสมอๆ มีโอกาสปวดบั้นเอว มากเป็นพิเศษ
-การทรงตัว ยืนหรือนั่ง ไม่ถูกหลักกายภาพ
-ตั้งครรภ์โดยเฉพาะใกล้คลอด
-นํ้าหนักตัวมากเกินไป ออกกำลังกายไม่สมําเสมอ
-การบาดเจ็บที่ทำให้กล้ามเนื้อ เอ็นและเส้นเอ็นต่างๆในร่างกายที่เกี่ยวเนื่องกับกระดูกสันหลัง และการทรงตัวเกิดอาการตึงเครียด
-หมอนรองกระดูกเสื่อม ซึ่งอาจก่อให้เกิความเจ็บปวดที่ลุกลามไปถึงขาหรือเท้า (เรียกว่า สเคียติกา) ทำให้ขาอ่อนแอ หรือมีอาการชา หรือเกิปัญหาเกี่ยวกับถุงนํ้าดี
4 อาการปวดหลังที่บ่งบอกโรค
*ปวดหลังร่วมกับแขนขาชาไม่มีแรง -ไขสันหลังอาจได้รับบาดเจ็บ
*ปวดหลังบริเวณเอวและมีไข้หนาวสั่น- อาจเกิดจากการติดเชื้ออักเสบของโรคไต
*ปวดหลังเรื้อรังนานและปวดมากขึ้นเรื่อยๆ-อาจบอกสัญญาณโรคถุงนํ้าในไต
*ปวดเหนือบั้นเอวทั้งสองข้าง-โรคไขข้ออักเสบหรือกระดูกสันหลังสึกกร่อน
คุณหมอเส็งได้แนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ ทานได้คือ
*เครื่องดื่มสตาร์ไลฟ์ 111 หรือเครื่องดื่มสตาร์ไลฟ์ 999 อย่างใดอย่างหนึ่งครั้งละ 30-40 cc เช้า-เย็น
*ยาบรรเทาอาการปวดเมื่อย ครั้งละครึ่งขวด เช้า-เย็น